เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2559 ที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5,พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิตร รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.ปิยพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,พ.ต.อ.ปกรณ์ ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.อภิวัชร ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ,พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ,พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกับพวกได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายเจษฎา หรือ ดา ใจกาศ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 212/1 หมู่ 5 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จว.เชียงใหม่ และนายกฤษณะ หรือ แบงค์ ทาอินต๊ะ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 288 หมู่ 1 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นำตัวดำเนินคดีโดยกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน,สถานที่ราชการ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นไปด้วยประการใดๆโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร
โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันก่อเหตุในหลายท้องที่ของจังหวัดเชียงใหม่ อย่างน้อย 17 ครั้งในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค.59 ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พร้อมด้วยของกลาง กว่า 500 รายการ
ผู้ต้องหารับว่าได้นำไปขายและจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่ และเงินบางส่วนนำไปเล่นการพนันและเสพยาเสพติด ครั้งละไม่ต่ำกว่า 200 เม็ด พอเงินหมดก็จะพากันลงมือตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆอีก ทั้งนี้มี อุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะมีเพียงแท่งเหล็กข้องอ,ไขควง และคีมหนีบ เท่านั้น ซึ่งผู้ต้องหาระบุว่าเรียนรู้วิธีการมาในช่วงที่เคยติดคุก ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นผู้เสียหายสามารถติดต่อดูของกลางได้กับทางเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองเชียงใหม่






