เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2557 เวลา 8.00 น. ที่ บริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองแกนพัฒนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 13 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา จัดงานตามโครงการคืนความสุขสู่สังคมไทยและสร้างความปรองดองสมานฉันท์กลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง โดยมี นายโชคดี อมรวัตร ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการคืนความสุขสู่สังคมไทยและสร้างความปรองดองสมานฉันท์กลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง โดยมีกลุ่มชาติพันธุ์เข้าร่วมงานกว่า 7 ชนเผ่าจำนวนกว่า1,500 คนอาทิเผ่าปกากญอ ลีซู ลาหู่ ไทยใหญ่ ม้ง กะเหรี่ยงคอยาว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานราชการทุกแห่งในอำเภอแม่แตง อีกทั้งงานนี้ยังได้รับความร่วมมือจากปางช้างแม่ตะมาน ปางช้างแม่แตง นำชนเผ่าเข้าร่วมงานด้วย
การเปิดงานเริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 น. นายบำรุงเกียรติ วินัยพานิช ปลัดอาวุโสผู้แทนนายอำเภอแม่แตง ได้กล่าวต้อนรับประธานในพิธีและผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จากนั้นนายภักดี พวงจิตร ผอ.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 13 กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ก่อนพิธีเปิดโครงการฯ นายโชคดี อมรวัตร ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวเปิดงานพร้อมทั้งให้ประชาชนรู้รักสามัคคีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จากนั้นจึงตีฆ้องเพื่อเปิดงานโครงการฯ
จากนั้นนายจรัส ไชยยา นายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้กล่าวรายงานต่อประธานในพิธีและนายประสิทธิ์ สีหะวงศ์ ผู้ประสานงานพัฒนาสังคมอำเภอแม่แตง ตัวแทนศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 13 จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวขอบคุณประธานในพิธีและผู้เข้าร่วมงาน หลังจากนั้นมีการมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมกลุ่มอาชีพและทุนการศึกษา จำนวน 10 กลุ่ม ก่อนที่จะร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุม เพลงสรรเสริญพระบารมี โดยนายมนัสวิน นันทเสน หรือติ๊ก ชีโร่ เป็นผู้ร้องนำโดยวงน้ำต้นแบนด์ จากโรงเรียนหางดงรัฐราษฎร์อุปถัมภ์เป็นผู้บรรเลง พร้อมทั้งร่วมกันโบกธงชาติไทยร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีการแสดงของโรงเรียนต่างๆ ในอำเภอแม่แตงและของชนเผ่าด้วย
ในช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. นายจรัส ไชยยา นายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้เป็นประธานเปิดการแสดงศิลปะมวยไทยจากค่ายมวยดังเมืองกรุงถึง 8 คู่ ด้วย ทั้งนี้โครงการคืนความสุขสู่สังคมไทยและสร้างความปรองดองสมานฉันท์สู่ชาติพันธุ์ครั้งนี้ภายใต้คำสั่งของ(คสช.) วัตถุประสงค์ เพื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดความสามัคคีปรองดอง มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศรัทธาต่อแผ่นดินไทยต่อไป.
ทีมข่าว cmskynews รายงาน
